ข้อมูลพิพิธภัณฑ์

สยามเจมส์ เฮอริเทจ (SIAMGEMS HERITAGE)

พิพิธภัณฑ์อัญมณี และผู้จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณี

ร่วมสัมผัสประสบการณ์อันตื่นตาตระการใจกับการนำเสนอเรื่องราวผ่านเทคโนโลยีระดับโลก ที่จะพาท่านเดินทางเข้าสู่โลกของอัญมณี และงานศิลปะอันประณีตวิจิตรบรรจงของไทย ที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย สยามเจมส์ เฮอริเทจ

โซนต่างๆที่น่าสนใจ

ประติมากรรมช้างทองคำ (คุณทับทิม และพลายน้อย)

ประติมากรรมช้างทองคำสองพ่อลูก เป็นช้างทรงเครื่องสมัยอยุธยาตอนต้นซึ่งเป็นศิลปะเครื่องทองโบราณตามแบบกรุวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีรูปทรงงามสง่า ตัวช้างหุ้มด้วยทองคำ 99.99% และฝังด้วยนพรัตน์ต่างๆ มากมายบนเครื่องทรง เยื้องย่างอยู่ท่ามกลางสายน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของไทย  อันหมายถึงศุภโชคโภคทรัพย์และความรุ่งเรืองตลอดไป

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานบนหลังคุณทับทิม คือพระพุทธรูปบูชาปางมารวิชัยชื่อว่า “พระพุทธมหาปารมีนุภาพพิสุทธิ์อนุตตรสังคามวิชัย” (มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าผู้ชนะสูงสุดเหนือสงครามมาร ด้วยพระพุทธานุภาพแห่งพระบารมีอันบริสุทธิ์ยิ่ง)

สยามเจมส์ เสฟียร์

ร่วมเดินทางสู่โลกของอัญมณีผ่านมิติของธรรมชาติและกาลเวลาในโรงภาพยนตร์รูปแบบโดม ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 15 เมตร พร้อมตื่นตากับประสบการณ์การกำเนิดอัญมณี ผ่านแสงสีเสียงรอบทิศทาง ด้วยเทคนิคระดับโลกในรูปแบบ 360 องศา ให้คุณรู้สึกดื่มด่ำเสมือนเข้าไปอยู่ร่วมในเรื่องราวสุดตระการตาอย่างแท้จริง

ห้อง 1 มณีนิรันดร์

เรียนรู้ประวัติศาสตร์อัญมณีอันทรงคุณค่าทั่วโลกนับแต่เบื้องบรรพกาล  จากยุคลูกปัด มนุษย์ริเริ่มนำวัสดุธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับ ยุคสำริด ที่มนุษย์เริ่มหลอมโลหะเป็นครั้งแรก ยุคทองคำ เมืองไทยโดดเด่นจนได้รับสมญานามว่า สุวรรณภูมิ ยุครัตนชาติ ที่มนุษย์นำพลอยสีมาขัดจนเกิดเหลี่ยมมุมงดงาม สู่ ยุควิจิตรบรรจง ที่เทคโนโลยีการเจียระไนได้ถือกำเนิดขึ้น สร้างประกายเจิดจรัสให้กับอัญมณีในแบบที่ไม่เคยเป็นมา ทุกรายละเอียดแสดงให้เห็นประจักษ์ถึงมรดกทางภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น หลอมรวมเป็นอัตลักษณ์ของชาติที่งดงามเหนือเงื่อนไขของกาลเวลา อย่างไม่อาจหาใดเปรียบได้

ห้อง 2 มณีประกาย

สัมผัสเบื้องหลังความละเมียดวิจิตรของอัญมณีในทุกเหลี่ยมมุม ผ่านศิลปะการเจียระไนของช่างไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านองค์ความรู้และความพิถีพิถัน ทั้งนี้การเนรมิตประกายให้อัญมณีทำได้หลายรูปแบบด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็นเหลี่ยมเกสร เหลี่ยมมรกต เหลี่ยมกุหลาบ และหลังเบี้ย  รวมไปถึงการเจียระไนตามรูปทรงดั้งเดิมของอัญมณี  ได้แก่ ทรงกลม ทรงหัวใจ ทรงเม็ดแตง ทรงผืนผ้าตัดมุม และทรงหยดน้ำ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความชำนาญของช่างให้หินสีแต่ละก้อนกลายเป็นอัญมณีเลอค่า สวยระยิบตาอย่างมีเอกลักษณ์

ห้อง 3 มณีมงคล

คนไทยมีความเชื่อมาแต่โบราณกาลว่า อัญมณี 9 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วยทับทิม มุกดา เพทาย มรกต บุษราคัม เพชร ไพลิน โกเมน และไพฑูรย์ ที่เรียกว่า “นพรัตน์” นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของดาวนพเคราะห์ เป็นของมีค่าสูง มีคุณค่าทางจิตใจ หากผู้ใดได้ครอบครองจะเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุด ดังปรากฏการใช้ทั้งในด้านศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ เครื่องประดับพระพุทธรูป เครื่องใช้ในพระราชพิธีสำคัญของพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธีโสกัณฑ์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ประดับยศแห่งพระมหากษัตริย์  รวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ซึ่งพระราชทานให้กับบุคคลที่ทำคุณงามความดีให้กับประเทศ

ห้อง 4 ปัทมราณี

ตื่นตะลึงกับความตระการตาของมงกุฎหนึ่งเดียวในโลก ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่รังสรรค์ โดยสยามเจมส์ เฮอริเทจ ให้งามสง่า ด้วยประกายล้ำค่าจากทับทิมสยาม  เจ้าแห่งอัญมณีที่สตรีทั่วโลกเลือกสวมประดับ  มาสัมผัสสุดยอดความละเมียดละไมในทุกรายละเอียด และความยิ่งใหญ่อลังการ หาใดเทียบได้ยาก ครั้งเดียวในชีวิตกับมงกุฎแห่งสตรีผู้สูงศักดิ์ ควรค่าเป็นสมบัติแห่งแผ่นดิน ที่นี่เท่านั้น

ห้อง 5 มณีวิทยา

การผลิตเครื่องประดับเป็นศาสตร์งานศิลป์ชั้นสูงแขนงหนึ่ง ที่ต้องใช้ “ช่างฝีมือ” หรือ “ศิลปิน” ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์ประดอยประกอบจนกลายเป็นเครื่องประดับที่วิจิตรบรรจง ขั้นตอนการผลิตเครื่องประดับเริ่มต้นจากการออกแบบ การเจียระไน การขึ้นรูปตัวเรือน และการฝังอัญมณี ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ เปลี่ยนจากก้อนหินธรรมดาสู่งานศิลป์ชั้นสูง